พลังกาญจน์ เอฟซี

อันดับจาก ไทยลีก 2? 

อันดับ 4 เพลย์-ออฟชนะ แพร่ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์รวมสองนัด 5-4

สมาชิกใหม่?

• กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (ผู้รักษาประตู)
• ศรุต ณะศรี (ผู้รักษาประตู)
• ณัฐสันต์ ปักการะโน (ผู้รักษาประตู)
• ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ (เซนเตอร์ฮาล์ฟ)
• พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา (ฟูลแบ็ก)
• สันติภาพ ราษฎร์นิยม (กองกลาง)
• ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา (กองกลาง)
• ไรฮาน สว๊วร์ต (ฟูลแบ็ก)
• อนุมานธาน โมฮัน คูมาร์ (กองกลาง)
• จอห์น ลูเซโร (กองกลาง)
• เซร์คิโอ อเกวโร่ (กองกลาง)
• อลาอัง โอยาร์ซุน (ปีก)
• อะดอล์ฟ คูดักโป (ปีก)
• เอแวร์ตอน (ปีก)

เฮดโค้ช?

ดุสิต เฉลิมแสน ตำนานนักเตะทีมชาติไทย ผู้ช่ำชองกับการทำทีมด้วยแท็กติกอันเชี่ยวกราก โดยมีผลงานชิ้นโบว์แดงสมัยเป็นบิ๊กบอสของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็พากระต่ายแก้วคว้าแชมป์ลีก 2020-21 โดยแพ้เพียงนัดเดียว

อดีตแบ็กซ้างช้างศึกมีประสบการณ์โชกโชนกับการทำทีมฟุตบอล เพราะว่า พลังกาญจน์ คือสโมสรที่ 10 ในประเทศที่กุนซือวัย 55 ปี เคยคุมทัพ

'โค้ชโอ่ง' เพิ่งเข้ามารับงานกับทีมม้าเหล็กเมื่อช่วงธันวาคม 2024 ก่อนจะปรับจูนกลยุทธ์และนักเตะให้เข้ากัน กระทั่งคว้าตั๋วใบสุดท้าย เลื่อนชั้นสู่ ไทยลีก ได้สำเร็จ

นักเตะความหวัง?

โมฮาเหม็ด มาร่า แนวรุกที่เพิ่งย้ายมาเล่นให้ พลังกาญจน์ ในเลกที่สองของซีซั่น 2024-25 แต่ผลงานโดดเด่นเหลือร้ายกับตัวเลข 12 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์ จากจำนวน 17 เกม เท่านั้น

โดยเฉพาะในรอบเพลย์-ออฟลุ้นเลื่อนชั้น หมอนี่คือคีย์แมน เพราะซัดไป 5 ประตู พร้อมพาม้าเหล็กทะยานสู่ ไทยลีก ได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

มาร่า เป็นนักเตะที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก เนื่องจากมีความคล่องตัวสูง ไปกับบอลดี แต่ทีเด็ดของพี่แกคือจังหวะกระชากลากเลื้อยแล้วสับไกด้วยตนเอง

นักเตะน่าจับตา?

อลาอัง โอยาร์ซุน แนวรุกป้ายแดงที่มาพร้อมดีกรีเยาวชน เรอัล โซเซียดาด สโมสรดังของ ลาลีกา  สเปน ทั้งยังผ่านการเลานให้ เรอัล ซาราโกซ่า, นูมันเซีย, กอร์โดบา, เรอัล ยูเนียน มาแล้ว

หมอนี่มีเท้าซ้ายสุดฉมัง แม้จะไม่ใช่ปีกที่มีสปีดต้นจัดจ้าน แต่สิ่งที่โดดเด่นของเขาคือเรื่องของไหวพริบ เพราะทุกจังหวะในการออกบอลนั้นสามารถสร้างความแตกต่างได้ในชั่วพริบตา

โควตาต่างชาติ?

- โมฮาเหม็ด มาร่า : แนวรุกชาวกินี คือดีลสุดคุ้มของฤดูกาล 2024-25 เขาเป็นอีกคนที่จะเป็นคีย์แมนต่อการอยู่รอดในลีกสูงสุด

- อนุมานธาน โมฮัน คูมาร์ : กองกลางตัวรับทีมชาติสิงคโปร์ ขึ้นชื่อเรื่องกัดไม่ปล่อย แถมยังเล่นหนักในทุกจังหวะ ซึ่งน่าจะเพิ่มความเกรี้ยวกราดในแผงมิดฟิลด์ได้ไม่ยาก

- อะดอล์ฟ คูดักโป : แนวรุกเชื้อสายออสเตรเลีย-แอฟรีกัน ที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนหน้า รูปร่างสูงโปร่ง 1.90 เมตร มีความคล่องตัวและหาพื้นที่ในกรอบเขตโทษได้ดี 

- เอแวร์ตอน : มิดฟิลด์ชาวบราซิล สไตล์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ที่เคยเล่นใน เจลีก กับ อูราวะ เร้ด ไดม่อนด์ส และ เวกัลตะ เซนได มาแล้ว 

- จอห์น ลูเซโร : กองกลางทีมชาติฟิลิปปินส์ เชื้อสายอังกฤษ ผู้เคยเล่นใน ไทยลีก กับ ระยอง เอฟซี เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ดังนั้นประสบการณ์ตรงจุดนี้น่าจะช่วย พลังกาญจน์ เอฟซี ได้แน่ๆ

- ไรฮาน สว๊วร์ต : ฟูลแบ็กลูกครึ่งเวลส์-มาเลเซีย แต่ไปเติบและโตจนเล่นให้ทีมชาติสิงคโปร์ อีกทั้งยังเคยอยู่ทีมใหญ่ ไทยลีก อย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มาแล้ว

- เซร์คิโอ อเกวโร่ : เพลย์เมเกอร์ชาวอาร์เจนติน่า ที่มาค้าแข้งในอาเซียน ตั้งแต่ปี 2016 จนโอนสัญชาติมาเป็นมาเลเซีย ชุดปัจจุบัน 

- อลาอัง โอยาร์ซุน : ปีกจากแคว้นบาสก์ 'ความหวังใหม่' ของ พลังกาญจน์ ผู้สามารถพลิกเกมได้ในชั่วพริบตา

จุดเด่น?

1. พลังศรัทธาจากคนเมืองกาญจน์

สนามเหย้าของ พลังกาญจน์ มีแฟนฟุตบอลเข้าชมติดอันดับต้นๆ (อันดับ 3 ของไทยลีก 2) ในซีซั่นที่ผ่านมา การขึ้นมาเล่นใน ไทยลีก จึงมีแนวโน้มว่าผู้ชมจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสิ่งนี้แหละจะส่งผลโดยตรงต่อพลังใจของนักเตะในสนาม

2. แท็กติก 'โค้ชโอ่ง' 

การมี ดุสิต เฉลิมแสน คุมทัพถือเป็นแต้มต่อที่สำคัญ เพราะเขามีดีกรีแชมป์ ไทยลีก 2020-21 กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และเข้าใจเกมระดับสูงเป็นอย่างดี จุดนี้ช่วยให้ทีมเล่นอย่างมีวินัย, รัดกุมและไม่เปิดพื้นที่ให้คู่แข่งง่ายๆ

3. แนวรุกมีหลากมิติ 

นักเตะต่างชาติของทีมอย่าง โมฮาเหม็ด มาร่า, อลาอัง โอยาร์ซุน, เอแวร์ตอน และ อะดอล์ฟ คูดักโป ล้วนมีจุดเด่นเฉพาะตัว และบางรายเคยผ่านลีกระดับสูงมาแล้ว

โดยเฉพาะ มาร่า ที่ยิง 12 ประตูในครึ่งฤดูกาลเดียวกับทีม แสดงให้เห็นถึงความอันตรายของแนวรุกที่พร้อมใช้ได้ทันที

จุดด้อย?

1. นักเตะใหม่เยอะ - ความเข้าขาอาจต้องใช้เวลา

ด้วยความที่มีการเสริมทัพหลายตำแหน่งในเวลาอันสั้น แม้จะเสริมได้ตรงจุด แต่การปรับจูนทีมเวิร์กและความเข้าใจในสนามยังเป็นเครื่องหมายคำถาม โดยเฉพาะในช่วงต้นฤดูกาลที่ความผิดพลาดอาจหมายถึงแต้มหล่น

2. ประสบการณ์ในลีกสูงสุด

นี่คือการขึ้นชั้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ผู้เล่นหลายๆ รายยังไม่เคยเผชิญความเข้มข้นของ ไทยลีก จึงต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นอาจต้องจ่ายค่าครูแพงในช่วงต้นซีซั่น

3. แนวรับยังไม่นิ่ง

แม้จะเสริมผู้รักษาประตูถึง 3 ราย แต่แนวรับโดยรวมยังไม่มีตัวหลักในระดับที่พิสูจน์แล้วในลีกสูงสุด การดวลกับแนวรุกของทีมใหญ่จึงเป็นบททดสอบที่น่ากังวลสำหรับ พลังกาญจน์

ปัจจัยได้ไปต่อใน ไทยลีก?

1. ใช้เกมในบ้านเป็นเครื่องมือเก็บแต้ม

ต้องพยายามเก็บชัยชนะในรังให้ได้มากที่สุด โดยอาศัยเสียงเชียร์และความคุ้นชินของสภาพแวดล้อม ซึ่งอาจทำให้ทีมใหญ่บางทีมหรือทีมในเลเวลใกล้เคียงกันพลาดได้

2. แนวรุกต้องผลิตสกอร์ได้ทันที

มาร่า, โอยาร์ซุน คูดักโป รวมไปถึงคนอื่นๆ ในแดนหน้าจะต้องไม่ใช้โอกาสที่มีโดยเปล่าประโยชน์ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นฝ่ายเสียน้ำตาเอาซะเอง

3. ไม่เสียสมาธิ - หลีกเลี่ยงช่วงตกต่ำต่อเนื่อง

คีย์สำคัญของการอยู่รอดใน ไทยลีก คือการรักษาความสม่ำเสมอ ถ้าคุณพลาดพลั้งเพียงครั้งเดียว นั่นคือหายนะทันที หากหลุดแพ้ติดกันหลายเกม จะกระทบความมั่นใจทั้งทีม

ภาพจาก : Kanchanaburi Power FC - พลังกาญจน์ เอฟซี